gps tracker ติดตาม
gps tracker ติดตาม ความแม่นยำของตัวรับสัญญาณ GPS ของ Garmin ส่วนหนึ่งถูกปรับปรุงด้วยระบบการเสริมพื้นที่กว้างหรือ WAAS ความสามารถนี้สามารถปรับปรุงความแม่นยำให้ดีมากกว่าระยะ 3 เมตร โดยการปรับแต่งบรรยากาศ ไม่มีความจำเป็นต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือเพิ่มเติมหรือค่าธรรมเนียมอะไรก็ตามสำหรับการใช้งานดาวเทียม WAAS และผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มความแม่นยำได้ด้วย Differential GPS (DGPS) ซึ่งจะปรับแก้ระยะ GPS ให้ถูกในระยะเฉลี่ย 1 ถึง 3 เมตร กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯทำงานบริการการแก้ไข DGPS ที่พื้นฐานที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วยโครงข่ายของป้อมบังคับการต่างๆที่รับสัญญาณ GPS รวมทั้งถ่ายทอดสัญญาณที่ถูกด้วย Beacon ส่งสัญญาณ ในการที่จะรับสัญญาณที่ผ่านการปรับแต่งแล้ว ผู้ใช้งานควรจะมีตัวรับสัญญาณ Differential Beacon และก็เสาอากาศ Beacon เพิ่มจาก GPS ที่มีอยู่ ขณะนี้ตัวรับสัญญาณ GPS แม่นสูงมาก เพราะเหตุว่าการออกแบบแบบหลายช่องทางขนาน ตัวรับสัญญาณของพวกเราล็อกเข้ากับดาวเทียมหลายดวงได้ทันทีที่เปิดใช้ทีแรก เครื่องใช้ไม้สอยเหล่านั้นจะยังคงล็อกแบบติดตามแม้กระทั้งในป่าทึบหรือในเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงเยอะแยะ ต้นเหตุทางบรรยากาศบางสิ่งบางอย่างและที่มาของข้อผิดพลาดอื่นๆอาจส่งผลต่อความแม่นยำของตัวรับสัญญาณ GPS ได้ ตัวรับสัญญาณ GPS ของ Garmin โดยธรรมดาแล้วจะถูกต้องแม่นยำถึงในระยะ 10 เมตร ความแม่นยำจะดีขึ้นอีกเมื่ออยู่บนผืนน้ำ.
การเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้รถยนต์มีเหตุที่เกิดจากหลายกรณี อย่างเช่นรถเก่า หรือรถยนต์มือสอง ที่ผ่านการแก้ไข หรือการใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพต่ำ ได้แก่สายไฟไม่ได้มาตรฐานจนถึงกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรส่วนประกอบอะไหล่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นรวมทั้งถ้าผู้ขับขี่ไม่เอาใจใส่ดูแลเครื่องยนต์กลไก ส่งผลให้ระบบหล่อเย็นไม่สามารถที่จะระบายความร้อนทำให้เครื่องยนต์กลไกร้อนจัดหรือที่เรียกกันว่าโอเวอร์ฮีท (OVERHEATED)
แล้วก็เกิดเพลิงไหม้ได้กรมป้องกันแล้วก็บรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีปกป้องเครื่องจักรร้อนจัด ดังต่อไปนี้ก่อนขับขี่ ผู้ขับขี่ควรจะหมั่นตรวจทานระดับน้ำในหม้อน้ำแม้เป็นรถยนต์ใหม่ ควรพิจารณาขั้นต่ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งส่วนรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ควรตรวจดู 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์หมั่นเพิ่มเติมน้ำสะอาด และก็ถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก 4 – 6 เดือน เพื่อคุ้มครองปกป้องสิ่งสกปรกหรือตะกอนหลงเหลือทำให้หม้อน้ำตัน พร้อมตรวจดูระบบต่างๆข้างในเครื่องยนต์กลไก ดังต่อไปนี้
*สายพานเครื่องยนต์ไม่หย่อนยาน หรือตึงเกินความจำเป็น
*พัดลมระบายความร้อนอยู่ในสภาพที่ ใช้งานก้าวหน้า ไม่แตกหักหรือบิดงอ
*แม้ตรวจเจอรอยรั่วตามจุดต่างๆด้านในเครื่องยนต์
อย่างเช่น ท่อที่เป็นยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้งระบายความร้อน ปั้มน้ำ เป็นต้นควรจะให้ช่างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญการทำงานซ่อมแซมในทันทีตอนที่กำลังขับขี่ ผู้ขับขี่สามารถดู อาการเครื่องจักรกลร้อนมากได้จากเข็มวัดปรอทที่หน้าปัดโดยทั่วไปเข็มวัดอุณหภูมิจะอยู่ระหว่างตัว C รวมทั้ง H หรือ 85 – 90 องศาเซลเซียสถ้าเกิดเข็มวัดอุณหภูมิเขยื้อนมาอยู่ใกล้ตัว H แสดงว่าเครื่องจักรกลร้อนมากให้รีบปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดหลักการทำงานของเครื่องยนต์และก็นำรถหยุดเข้าข้างทางในรอบๆ
ที่ปลอดภัยในทันทีรวมทั้งรีบเปิดฝากระโปรงรถยนต์เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องแต่แม้มีไอน้ำพุ่งขึ้นมาจากฝากระโปรงรถยนต์ ควรจะรอคอยกระทั่งความร้อนของเครื่องจักรน้อยลงแล้วจึงค่อยเปิดฝากระโปรงรถยนต์ไม่เปิดฝาปิดหม้อน้ำในขณะที่เครื่องจักรกลร้อนมาก เพราะเหตุว่าไอน้ำอาจพุ่งขึ้นมาจนถึงทำให้บาดเจ็บได้แล้วก็ห้ามราดน้ำที่เครื่องยนต์กลไก เครื่องติดตาม เพราะจะมีผลให้เครื่องจักรเสียหายในขณะเปิดฝาปิดหม้อน้ำ ควรนำผ้าดกๆมาหุ้ม
หรือวางบนฝาปิดหม้อน้ำกรณีที่น้ำในหม้อน้ำเหลือน้อยหรือหมด ควรรอคอยจนกระทั่งเครื่องยนต์เย็นลงแล้วจึงค่อยเติมน้ำหรือน้ำยาหล่อเย็นอย่างช้าๆจนเต็ม แล้วก็ปิดฝาปิดหม้อน้ำให้สนิทแล้วให้ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เดินค่อย เพื่อตรวจทานความไม่ดีเหมือนปกติของเครื่องยนต์กลไกถ้าหากเจอรอยรั่วซึม ควรจะแจ้งช่างผู้ที่มีความชำนาญการดำเนินงานซ่อมบำรุงในทันทีเพื่อปกป้องเครื่องจักรกลร้อนมาก กระทั่งเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์
กฎจราจรที่คนไทยละเลยกฎจราจรมีไว้เพื่อให้ทุกคน สามารถใช้ถนนสาธารณะร่วมกันได้อย่างมีความเรียบร้อยและก็ปลอดภัย ในแต่ละประเทศมีกฎจราจรพื้นฐานคล้ายกัน แม้กระนั้นต่างกันที่เนื้อหาแล้วก็ความครัดเคร่งสำหรับการ ปฏิบัติ บทความนี้เก็บรวบรวมกฎจราจรของไทยหรือ ลักษณะการขับรถยนต์ ที่ชาวไทยไม่ให้ความสนใจ ไม่ทำตาม จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา หรือถ้าใครเข้มงวด ก็อาจจะถูกด่าทอหรือชนได้ ทั้งสิ้นเป็นเพียงแค่การรวบรวมให้รู้
แต่ว่าอาจยากที่จะชักพาให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้น ตราบใดที่ยังมีสินบน! เลี่ยงการชำระค่าปรับขับช้าชิดทางซ้ายไม่ได้เจอแม้กระนั้นตามถนนเตียนชนบทเท่านั้น บนทางด่วนหรือทางลอยฟ้าในกรุงเทพฯ ก็พบได้มากๆเนื่องจากคำว่าช้า แล้วก็มีกฎหมายควบคุมความเร็วสูงสุดไว้ ก็เลยทำให้หลายคนคิดว่า เวลาใดที่รู้สึกด้วยตัวเองว่าเร็วแล้ว หรือขับเกินความเร็วที่กฎหมายจำกัดไว้ ก็จะขับแช่อยู่ในเลนขวาได้ เนื่องจากในเมื่อไม่ได้คิดว่าขับช้า
ก็ไม่ต้องชิดทางด้านซ้ายแนวทางที่ถูกต้องเป็นแซงแล้วจำต้องชิดทางด้านซ้าย เลนขวามีไว้แซงเพียงแค่นั้น หรือราชการควรจะแปลงประโยคใหม่เพิ่มคำว่า “กว่า”เข้าไปจากขับช้าชิดทางซ้าย แปลงประโยคเป็นขับช้ากว่าชิดทางซ้ายหมายถึงไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าไรในเลนขวา ถ้าหากมีรถยนต์ ที่ตามมาขับเร็วกว่า ก็ต้องหลบซ้ายให้ไม่ต้องปฏิบัติตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปวินิจฉัยคนอื่นว่า หากตัวเองขับเร็วตามกฎหมายแล้วไม่ต้องหลบให้คนใดกันแน่
แนะนำว่าไม่ต้องคิดแบบนั้น เนื่องจากว่าไม่ใช่หน้าที่ของเรา ถ้าเกิดมีรถยนต์ที่เร็วกว่าก็ควรหลบเข้าเลนซ้ายให้ ถึงเลนซ้ายในช่วงนั้นจะตะปุ่มตะป่ำบ้าง แต่ถ้าเกิดไม่ถึงกับห่วยจนถึงทนขับไม่ได้ ก็ควรจะหลบเข้าเลนซ้ายชั่วครั้งคราว พอถูกแซงผ่านไปแล้วก็ว่างก็ค่อยกลับมาเลนขวาขับเร็วเกินกำหนดกฎหมายไทยควบคุมความเร็วสูงสุดไว้ต่ำเป็น90-120 กิโลเมตร/ชั่วโมงแล้วแต่ว่าจะเป็นถนนใด ถ้าหากเป็นทางหลวงใช้ฟรี มักถูกจำกัดแค่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมงคนส่วนใหญ่คิดว่าข้อบังคับล้าหลัง
ไม่ปรับปรุงแก้ไขตามสมรรถนะของรถยนต์ รวมทั้งบนถนนหนทางจริง สำหรับการเดินทางไกล ก็แทบจะไม่มีใครทนขับช้าอย่างนั้น หากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะเรียกจับก็โดนกันเกือบทุกคันนับเกิดเรื่องที่หวานอมขมกลืน ด้วยเหตุว่ายังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับนี้ ซึ่งก็ดีแล้วในแง่หนึ่งที่กำลังจะได้ความปลอดภัย เพราะว่าชาวไทยหลายสิบเปอร์เซ็นต์ขับขี่รถยนต์โดยมีพื้นฐานที่ไม่ดี ยิ่งเร็วก็ยิ่งอันตราย แม้กระนั้นในอีกทางหนึ่งก็พอๆกับเป็นกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับเรื่องจริง
คนไหนกันแน่จะไปทนขับเป็นเต่า 90 กม./ชม. แม้กระทั้งข้าราชการ นักการเมืองใหญ่ๆก็ยังไม่เห็นใช้ความเร็วในการเดินทางต่ำแบบนี้ไม่เปิดไฟเลี้ยวบางคนหลงลืม บางบุคคลไม่เปิดเป็นนิสัย บางคนตั้งใจไม่เปิด เพราะเหตุว่าเคยพบกับผู้อื่นที่นิสัยไม่มีน้ำใจ ซึ่งทำให้การเปิดไฟเลี้ยวที่น่าจะเป็น คำตักเตือนให้ทราบหรือขอทาง แต่เป็นการเตือนให้รู้สึกตัวแล้วก็เร่งความเร็วมาปิดช่องว่าง หลายคนก็เลยไม่เปิดไฟเลี้ยวด้วยเหตุผลสั้นๆคือ ไม่อยากให้คนอื่นๆรู้สึกตัว ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นควรเปิด เพราะจะได้เรื่องไม่มีอันตรายเพิ่มขึ้น รวมทั้งคงไม่พบกับคนไร้น้ำใจกันทั้งถนน
ป้ายหยุด แม้กระนั้นไม่หยุดในไทยใช้คำว่า หยุด
ส่วนในหลายประเทศเป็นป้าย STOPแล้วก็จำเป็นต้องประพฤติตามป้ายอย่างเคร่งครัด ดังเช่น อเมริกา ไม่ว่าจะอยู่บนถนนใหญ่หรือตรอกเล็ก ช่วงเวลากลางวันหรือดึกไม่ว่าจะมองครื้นเครงหรือเปลี่ยว ถ้ามีป้ายนี้ จำเป็นต้องเบรกรถยนต์ให้ล้อหยุดหมุน จะสักครึ่งหรือ 1 วินาทีก็ยังดี ถ้าดูแล้วทางเตียนโล่งก็ค่อยขับถัดไป ไม่มีการปลดปล่อยไหลช้าๆล้อจะต้องหยุดสนิทชั่วคราว ไม่งั้นถ้ามีตำรวจซุ่มอยู่จะจับกุมได้โดยทันที แม้ถนนหนทางจะเตียนโล่ง มืดค่ำและก็เปลี่ยว
รวมถึงไม่มีรถยนต์อื่นในบริเวณแยกนั้นเลยก็ตาม นับเป็นความปลอดภัยที่แจ่มแจ้ง เนื่องจากการหยุดพร้อมด้วยมองความโปร่งของทางที่จะไปย่อมดียิ่งกว่าปล่อยรถยนต์ไหลๆกับมองน่าประหลาดที่ชาวไทยไม่เคยหยุดรถยนต์ตามที่ได้กำหนดของป้ายหยุดนี้เลย บางบุคคลแลเห็นแล้วก็ทราบดีว่ามีแยกอยู่ด้านหน้า แล้วก็ต้องดูทางว่าว่างไหม แม้กระนั้นไม่เคยคิดจะให้้ล้อหยุด หมุนสักประเดี๋ยวเลย ตำรวจก็ไม่เคยจับบางบุคคลแทบไม่เคยเห็น
ไม่สนใจป้ายนี้ หรือเห็นแล้วไม่คิดว่าจะต้องเบรกกระทั่งล้อหยุดหมุนเลย รวมทั้งหากขับขี่รถยนต์ไหลๆมาเป็นแถว หากรอบๆแยกนั้นทางว่าง ถ้าหากคนไหนกันเจอป้ายนี้แล้วเบรกจนกระทั่งหยุด ก็บางทีอาจโดนกดแตรไล่หรือถูกชนท้ายได้ป้ายหยุดสำหรับคนประเทศไทยก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากมาย หรือบางคนกล่าวว่าไม่มีสาระจะติดไปเพราะอะไรฝ่าไฟเหลืองในไทยมองเห็นไฟเหลืองแล้วจำต้องรีบส่ง ตอนที่ในหลายประเทศเป็นไฟหยุด เห็นไฟเหลืองแล้ว
จำเป็นต้องหยุด ในไทยขืนไม่เร่งส่ง ก็อาจโดนก็อาจโดนบีบแตรไล่หรือถูกชนด้านหลังได้ หัวข้อนี้คงยากที่จะแก้ไข ด้วยเหตุว่าถ้าแปลกประหลาดทำอยู่คนเดียวก็บางทีอาจถูกชนท้ายได้เปิดเลนใหม่ซ้ายสุดแม้การจราจรติดขัดมา และถนนหนทางมีไหล่ทางทางด้านซ้าย พอจะเปิดเลนใหม่ได้อีกสัก 1 เลน ก็จะไม่รีรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อนุโลมให้ในหลายประเทศ ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาดและไม่ว่าการจราจรจะขัดข้องแค่ไหน ก็ไม่มีผู้ใดเปิดเลนใหม่ขอบซ้ายสุด ด้วยเหตุว่าจะถูกจับจะใช้สำหรับรถยนต์หยุดเสีย และก็ที่สำคัญ คือ สำหรับรถยนต์รีบด่วน ดังเช่น กำลังจะออกเดินทางไปลากรถยนต์ที่หยุดเสีย
หรือที่สำคัญเป็น รถพยาบาลที่น่าจะไปได้เร็วที่สุดในเลนโล่งๆสำหรับคนไทยที่ทำเช่นนี้ จะสำนึกก็เมื่อต้องใช้บริการของรถพยาบาลแล้วทุกเลนเต็มหมด แม้แต่ริมซ้ายสุดก็ยังเต็มหยุดทับลายตารางเหลืองผู้ขับรถยนต์โดยมากทราบว่าห้ามหยุดทับ แต่ในกรณีที่การจราจรติดขัดแบบพอไหลๆได้ ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เผลอจอดทับ ด้วยเหตุว่าไม่ได้ประเมินรถยนต์บนการจราจรด้านหน้า คิดง่ายๆว่าประเดี๋ยว คงจะไหลไปเรื่อยๆผ่านลายตารางไปได้ ในความจริง เมื่อถึงเขตตารางนี้
หากยังไม่มั่นใจก็ควรรอให้รถยนต์คันนำหน้าเลยปลายตารางออกไปจนมีที่ว่างสำหรับรถยนต์ของเรา แล้วค่อยขับตามไป ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ว่าไม่ยินยอมทำกันให้ถูกต้องเลี้ยวซ้าย (ไม่)ผ่านตลอดใครหลายๆคนไม่ทราบว่า จะสามารถเลี้ยวซ้าย ผ่านตลอดได้ ก็ต่อเมื่อมีป้ายบอกไว้แจ่มกระจ่างว่า เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดหากไม่มีป้ายฯ รวมทั้งไม่มีสัญญานไฟแยกออกมา
ตามกฎหมายจะนับว่านั่น เลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอด จำเป็นต้องรอให้มีไฟเขียวทางตรงหรือไฟเขียวเลี้ยวซ้ายสว่างขึ้น ถึงจะเลี้ยวซ้ายได้จอดเลยเส้นตรงแยกนับเป็นเรื่องที่ประสบพบเห็นได้บ่อยๆกระทั่งต้องมีข้อบังคับตัดแต้มกัน น่าต่อว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจอดทับทางม้าลาย คนข้ามถนนจำต้องเดินหลีกเลี่ยงโดยไม่จำเป็น คนอยู่ในรถยนต์เย็นฉ่ำกลับจอดบังทางข้ามให้คนเดินเท้าที่ทั้งยังพบความร้อนทั้งฝุ่นผงจำต้องตรากตรำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต่อคิว หยุดแปะขอเข้าน่าจะมีน้อยมากที่ปฏิบัติเนื่องจากไม่คุ้นทาง ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะเหตุว่าไม่ได้อยากต้องการต่อคิวยาวเลยขับมาต้นๆคิวแล้วจอดแปะริมคิวขอเข้า เกะกะออกไปอีกเลนหนึ่งและคิดไปเองว่า ในเมื่อเปิดไฟเลี้ยวแล้วก็คงจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เข้าหน่อย โดยไม่คิดว่าตนเองตั้งมั่นไม่ต่อคิวแล้วมาขอแทรกนั้นผิดจำต้องแซงเส้นทึบทั้งนอกแล้วก็ในเมืองพบได้เสมอ มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งอกตั้งใจ แม้กระนั้นเดาว่าเกินครึ่งขับอย่างตั้งใจ
โดยมองเห็นเส้นทึบก่อนตัอสินจิตใจละเมิดขับข้ามหรือแซงจอดในที่ห้ามจอดแล้วเปิดไฟเร่งด่วนเสมือนว่าถ้าเปิดไฟเร่งด่วนแล้วจะหยุดชั่วคราวได้ ถึงจะมีป้ายห้ามจอดอยู่แจ่มชัดก็ตามโดยไม่สนใจว่าจะเกะกะการจราจรแค่ไหนให้สินบน ต้นเหตุของการกระทำผิดการให้รวมทั้งรับสินบนเมื่อมีการกระทำผิดกฎจราจร gps tracker นับคือเรื่องธรรดาของสังคมไทย คนไหนกันแน่ไม่ยินยอมกินสินบนหรือตั้งมั่นรับใบสั่ง บางครั้งก็อาจจะกลายเป็นคนเขลาในสังคมของตนเองผู้ที่ให้สินบน
มักจะสารภาพว่าตัวเองกระทำผิด แล้วยกสารพันคำกล่าวอ้างขึ้นมากล่าวโทษถูกว่า เสียค่าปรับแพง เสียเวลาหาเลี้ยงชีพหรือโดนตัดแต้ม สู้กินสินบนแล้วจบเลยตรงนั้นมิได้ พอดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายท่าน ก็เต็มอกเต็มใจและก็จับกุมเพื่ออยากสินบนอยู่แล้วการต่อว่าดสินบนผิดทั้งผู้ให้แล้วก็คนรับ แต่ว่าผู้ที่ให้ กลับมาคิดหรือพูดภายหลังว่า โดนไถหรือผู้รับชั่วฝ่ายเดียว ไม่ได้คิดเลยว่า ตนเองทำผิดกฎหมาย 2 ต่อหมายถึงไม่ถูกกฎจราจร และก็ติดสินบนเจ้าหน้าที่
หัวข้อนี้คงปรับแต่งกันยาก แม้ถูกใจทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งไม่เคยมีคดีในศาลเรื่องการติดสินบนตำรวจข้างหลังกระทำผิดกฎจราจร การต่อว่าดสินบนข้างหลังกระทำผิด ทำกันจนถึงเป็นวัฒนธรรมกลายๆของคนไทยไปแล้ว และก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้มีการกระทำผิดกฎจราจร โดยไม่ระแวดระวังหรือถึงกับขนาดตั้งใจกระทำผิดกันมาก เพราะเหตุว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคิดอย่างชะล่าใจว่า เป็นอย่างมากถ้าหากบังเอิญถูกจับก็ยัดเงินข้าราชการร้อยสองร้อยบาทก็จบ คนไม่ใช่น้อยเดาว่า หากกระทำผิดกฎ จราจรแล้วกินสินบน ได้โอกาสเสร็จไม่ต้องรับใบสั่งถึงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ (อันที่จริงจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 80 ก็อาจเพียงพอทายใจกันได้)