แบล็ค วิโดว์ (2021) ภาคไทย

แบล็ค วิโดว์ (2021) ภาคไทย

แบล็ค วิโดว์ (2021) ภาคไทย ถึงแม้ว่า แบล็กวิโดว์ ที่รับบทโดย สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน (Scarlett Johansson) จะปรากฏตัวในหนังจักรวาลมาร์เวลมาตั้งแต่หนัง Iron Man 2 (2010) แม้กระนั้นจนกระทั่งในตอนนี้ก็ยังไม่มีหนังลำพังเป็นของตัวเอง แถมปัจจุบันผู้แสดงใหม่อย่าง Captain Marvel ก็จัดแจงจะมีหนังผู้เดียวของตนเองในตอนต้นปีหน้าอีกด้วยถึงแบบงั้นแฟนคลับเล็กน้อยก็ยังอยากจะเห็นเรื่องราวของสายรัสเซียคนนี้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร คุณต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าขี้เหนียวว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ และระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆในจักรวาลหนังมาร์เวลคุณถูกวางตัวให้ไปทำภารกิจอะไรหรือไม่ล่าสุดเว็บ reddit ภาพที่แสดงข้อมูลว่าหนัง Black Widow นั้นกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา ระบุชื่อผู้กำกับ เคต ชอร์ตแลนด์ (Kate Shortland) นักแสดงนำคือสาว สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน ที่สำคัญยังกำหนดเรื่องย่อสั้นๆโดยสังเขปไว้อีกด้วยแบล็กวิโดว์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ที่นาตาชา โรมานอฟ ถูกส่งตัวไปยังหน่วยสืบราชการลับ KGB ตั้งแต่ต้นกำเนิด สถานที่ที่ซึ่งบ่มเพาะให้เธอได้แปลงเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ เมื่อ U.S.S.R ล่มสลาย แบล็ค วิโดว์ (2021) ซับไทย รัฐบาลบากบั่นสังหารเธอในนิวยอร์ก ในเวลานั้นเธอเป็นข้าราชการรับงานทั่วไปไม่สังกัดค่าย หนังภาคคนเดียวจะทำให้เรารู้เรื่องราวชีวิตของโรมานอฟที่อาศัยอยู่ในอเมริกาตลอดเวลา 15 ปี ภายหลังที่โซเวียตล่มสลาย

Black Widow เวอร์ชั่นภาคหนังเดี่ยวจะมีเนื้อเรื่องที่ดิบและก็เสียใจมาก

Black Widow จะเป็นหนังเรื่องแรกในเฟส 4 ของ Marvel Cinematic Universe ที่เราจะได้ดูกันในปีถัดไป รวมทั้งมันก็ยังเป็นหนังคนเดียวเรื่องแรกและเรื่องท้ายที่สุดของนักแสดง Natasha Romanoff อีกด้วยและก็มันก็จะมีทั้งความดิบรุนแรงในสไตล์หนังที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนใน MCU แล้วก็ยังเต็มไปด้วยความเศร้าใจอีกด้วยโดนปัจจุบันนั้นทาง Florence Pugh หนึ่งในดาราของหนังคนรับบทเป็น Yelena สาวมั่นผู้ที่ได้รับการคาดหมายกันว่าเธอจะมาเป็น Black Widow คนต่อไปนั้น

ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Collider ถึงเรื่องราวต่างๆในหนัง ซึ่งตัวเธอตื่นเต้นกับมันเป็นอย่างมากทีเดียวที่ได้ร่วมแสดงในหนังเรืองนี้ ด้วยเหตุว่ามันมีความดิบและมันมีความเศร้าใจมากๆจากบทหนังที่คุณได้อ่าน และก็ในบทต่อที่ผู้กำกับ Cate Shortland ได้เอามาเปิดเผยถึงเรื่องราวในอดีตกาลของ Natasha

นั้นมันก็น่าเร้าใจมากๆอีกด้วยโดยในงาน San Diego Comic-Con ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานั้นได้มีการรับรองแล้วว่าเรื่องราวของ Black Widow นั้นจะเล่าย้อนไปยังสถานะการณ์ช่วงรอยต่อระหว่าง Captain America: Civil War และ Avengers: Infinity War นั่นเอง แต่มันจะมีเหตุสำคัญอะไรที่ทำให้ Black Widow ได้แปลงเป็นหนังเปิดหัวในเฟสที่ 4 หรือไม่นั้น เราก็คงต้องรอคอยชมกันในวันที่หนังฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2020

แม้ว่า แบล็กวิโดว์ ที่รับบทโดยสการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน (Scarlett Johansson) จะปรากฏตัวในหนังจักรวาลมาร์เวลมาตั้งแต่หนัง Iron Man 2 (2010)

แม้กระนั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหนังผู้เดียวเป็นของตัวเอง แถมล่าสุดตัวละครใหม่อย่าง Captain Marvel ก็เตรียมจะมีหนังโดดเดี่ยวของตัวเองในช่วงต้นปีหน้าอีกด้วยถึงอย่างนั้นแฟนคลับบางส่วนก็ยังอยากจะมองเห็นเรื่องราวของสายรัสเซียคนนี้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เธอจะต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าขี้งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ และระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆในจักรวาลหนังมาร์เวลเธอถูกวางตัวให้ไปทำภารกิจอะไรหรือเปล่าปัจจุบันเว็บ reddit

ภาพที่ชี้ข้อมูลว่าหนัง Black Widow นั้นกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา บอกชื่อผู้กำกับ เคต ชอร์ตแลนด์ (Kate Shortland) นักแสดงนำคือสาว สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน ที่สำคัญยังระบุเรื่องย่อสั้นๆโดยย่อไว้อีกด้วยผู้ประกอบกิจการผู้ครอบครองโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา กล่าวโทษ Disney+ ที่ทำให้รายได้ของ Black Widow ไม่ดีสักเท่าไหร่ดูท่าการที่ภาพยนตร์ Black Widow ที่แฟนมาเวลต่างคอย ได้รับการฉายผ่านโรงหนังในสหรัฐฯ ก่อนวันที่ Disney+ จะได้ทำสตรีมมิงรอบพรีเมียร์เพียงแค่ไม่กี่วัน จะก่อให้เกิดผลเสียให้กับรายได้ของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งล่าสุดผู้ครอบครองโรงหนังในสหรัฐอเมริกา

ได้ออกมาต่อว่าแพลตฟอร์ม Disney+ เป็นที่เรียบร้อยแล้วแม้จะอยู่ในช่วงของโรคระบาด แม้กระนั้น Black Widow ก็ทำรายได้จากวิธีขายตั๋วในโรงหนังได้ทั้งสิ้น 80 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ2.6 พันล้านบาท รวมทั้งทำรายได้จากการสตรีมไม่งได้ทั้งผอง 60 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1.9 ล้านบาทในสัปดาห์แรก และในอาทิตย์ต่อมา

Black Widow ที่ฉายในโรงหนังก็ทำเงินได้เพียง 26 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8 ร้อยล้านบาทเท่านั้นสัมพันธ์ผู้ทำธุรกิจโรงหนังนานาชาติ หรือ National Association of Theatre Owners (NATO) เผยว่าหากว่า Black Widow ออกฉายแต่เพียงในโรงภาพยนตร์ พวกเขาบางทีอาจทำรายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ3.2 พันล้านบาท พร้อมด้วยวิจารณ์แพลตฟอร์ม Disney+ ว่า

“หากแม้มันเป็นสิ่งที่รับรองได้แล้วว่ายุคแห่งโรคระบาดนี้คือแรงขับเขยื้อนทำให้ Disney สร้างกลยุทธ์ใหม่ในการปล่อยภาพยนตร์ออกมาพร้อมสำเร็จลุล่วง แม้กระนั้นถ้าปล่อยภาพยนตร์ในโรงหนัง รายได้สำหรับพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผองสำหรับช่วงเวลาที่อยู่ในโรงก็จะเพิ่มมากขึ้น”การรายงานรายได้ ‘Black Widow’ บนสตรีมมิงของดิสนีย์

หรือนี่เป็นมาตรฐานใหม่ใน Box Office?เรื่องแรกของมาร์เวล ตั้งแต่แมื่อ Spider-Man: Far From Home งานร่วมสร้างกับโซนี ซึ่งออกฉายเมื่อ 2 กรกฎาคม 2019 ที่เป็นสถิติใหม่ของบ็อกซ์สำนักงานในสมัยโควิด-19 ระบาด ก็น่าจะทำให้สตูดิโอทั้งหลาย มีหวัง หรือหายใจโล่งปอด ต่อให้มิได้ติดโรคโควิด-19 ลงปอดก็ตามเนื่องจากหนังไม่ได้มีให้ชมเพียงแค่ในโรงหนัง แต่ว่ายังมีให้ได้ในบริการสตรีมไม่ง ดิสนีย์ พลัส โดยสมาชิกจะต้องจ่ายค่าดูอีก 30 เหรียญสหรัฐในวันเดียวกันถึงจะมีการแบ่งผู้ชมเกิดขึ้น Black Widow

ก็ทำเงินในโรงได้อย่างผ่องใส เก็บรายได้ในวันศุกร์ที่ 9 ก.ค.ไปถึง 39.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งมีการมองไปถึงว่า เป็นได้ที่หนังจะปิดสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งพอกับรายได้เปิดตัวของหนังซูเปอร์ฮีโรมาร์เวลนำโดดเดี่ยวทั้งหลาย ในยามธรรมดา!แต่ที่เซอร์ไพรส์มากกว่าก็คือ พอเพียงถึงวันอาทิตย์ ดิสนีย์ก็ทำในสิ่งที่สตูดิโออื่นๆไม่เคยทำ (กระทั่งตัวเองก็เช่นเดียวกัน) นั่นเป็นเผยรายได้จากสตรีมมิง ที่ Black Widow

คิดเงินจากสมาชิกดิสนีย์พลัสทั่วโลกได้ถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นหนังปลดปล่อยฉายในดิสนีย์พลัสชนโรงที่ทำเงินเยอะที่สุด และก็เมื่อจบสุดสัปดาห์แรก หากรวมรายได้ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์อีกทั้งในและนอกอเมริกาเหนือ อีกทั้งสตรีมมิง Black Widow ทำรายได้ไปถึง 158 ล้านเหรียญสหรัฐฯทั่วโลก

นอกจากจะเป็นบิกเซอร์ไพรส์แล้ว การเปิดเผยจำนวนจากตลาดดิจิทัลของดิสนีย์

ยังเป็นการสร้างความโล่งใสในตลาดที่เคยปกปิดข้อมูลกันสุดฤทธิ์สุดเดช จนกระทั่งกำเนิดปริศนาว่า อะไรบันดาลใจให้ดิสนีย์ตกลงใจแบบนี้? และก็จะเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ของการรายงานรายได้ในอนาคตไหม?โดยปกติสตูดิโอที่มีบริการสตรีมมิงของตน และเปิดหนังในโรงกับสตรีมมิงวันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น วอร์เนอร์ฯ หรือ ดิสนีย์ ต่างไม่เคยเผยตัวเลขสตรีมมิงเลย

ไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือยอดชม แม้ว่าจะรายงานรายได้ของโรงหนังทุกสุดสัปดาห์ก็เหอะ แล้วหากเปิดเผย ก็จะปกคลุมๆเครือๆอย่าง เมื่อม.ค. วอร์เนอร์ฯ ปลดปล่อย The Little Things งานระทึกขวัญที่แสดงนำโดยเดนเซล วอชิงตันและก็เรมี มาเล็ก ลงโรงรวมทั้งเอชบีโอแม็กซ์พร้อม พวกเขาบอกแค่ “หนังขึ้นชั้น 1”

ของเอชบีโอแม็กซ์ โดยไม่มีรายงานตัวเลขผู้ชมมันเลยกลายเป็นเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ ที่ดิสนีย์ทำลายแบบแผนเดิมๆที่เคยเป็นในธุรกิจสตรีมไม่งดิสนีย์ไม่ออกมาบอกหรอกว่า ทำไม? รวมทั้งเพราะเหตุใด? แต่ว่าสิ่งแรกที่พวกเราดูก็คือ ตัวเลขระดับ 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น มันสวยเกินกว่าจะเก็บเอาไว้เฉยๆด้วยเหตุว่ามันสามารถเอาไปใช้อะไรได้มากมาย ในทางการตลาดแม้กระนั้นจากข้อมูลที่ได้มาจากวาไรตี ซึ่งเป็นความเห็นของผู้บริหารสตูดิโอคู่แข่งอีกครั้ง ก็คือ…ช่วงแรกดิสนีย์ ไม่มีแผนที่จะเผยตัวเลขรายได้บนสตรีมมิง แต่ว่าหนังมาร์เวลทั้งยัง 23 เรื่องก่อนหน้า

ล้วนเปิดตัวด้วยรายได้ระดับทำสถิติ Black Widow ก็มีแววที่จะทำได้ เมื่อคิดบัญชีวันศุกร์ได้งามๆอย่างที่บอกในตอนแรก แต่พอเพียงมาถึงวันเสาร์รายได้กลับหล่นถึง 41% เหลือเพียง 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็กล่าวได้ว่าหนังเป็นไปไม่ได้ทำเงินถึงร้อยล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาในสุดสัปดาห์แรกแน่ๆซึ่งการนำรายได้มารวมกัน (ในขณะที่รายได้จากดิสนีย์พลัสเป็นรายได้จากบริการนี้ทั่วทั้งโลก) ทำให้เพียงพอถึงวันอาทิตย์ สตูดิโอก็ตีข่าวสารได้ว่า Black Widow เป็นหนังตอนกำเนิดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลที่ทำรายได้เปิดตัวในประเทศสูงสุด

หลังจาก Black Panther และ Captain Marvelแม้กระนั้นถ้าเกิดนับรายตัวได้จากโรง คำบอกเล่าที่ว่าไม่จริง เมื่อ Spider-Man: Homecoming, Iron Man, Guardians of the Galaxy และก็ Doctor Strange เปิดตัวด้วยรายได้ 117, 98.6, 94.3 และ 85.1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาเป็นลำดับ มากกว่า Black Widow ทุกเรื่อง ดิสนีย์ถึงต้องหาตัวช่วยซึ่งสลากกินแบ่งก็มาออกที่ดิสนีย์พลัส แต่กระนั้นก็ยังไม่ยินยอมกล่าวว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯนี้ ได้มาจากสมาชิกในอเมริกาเหนือเท่าไร? ซึ่งถ้าได้มาสัก 37.1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาขึ้นไป

กลับสู่หน้าหลัก https://im-imcgrupo.com

By ufabet