รีวิว ปีเตอร์ แรบบิท 2 เดอะ รันอะเวย์
รีวิว ปีเตอร์ แรบบิท 2 เดอะ รันอะเวย์ เลือกที่จะแยกทาง … เพื่อความรักขณะที่เหมาะสมแบบนี้ เราขอนำเสนอภาพยนตร์เรื่องราวความรักแสนบริสุทธิ์…ที่จะทำให้ท่านจะต้องเสียน้ำตาอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันทำให้ อาคาริ จำต้องสูญเสีย อีกทั้งบิดารวมทั้งแม่ และก็การมองมองเห็นของคุณในเวลาเดียวกัน รูอิ นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งอนาคตไกลจำต้องเสียอนาคตเพราะว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนผิดคนสองคนที่จะต้องพบเจอกับโศกนาฏกรรม ได้โคจรมาเจอกัน ปีเตอร์ แรบบิท 2 เดอะ รันอะเวย์ ตกหลุมรักกันรวมทั้งทำให้นำแสงสว่างกลับมาสู่ชีวิตของทั้งสองได้อีกรอบแม้กระนั้นการพบกันของทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่น่าดีใจ เนื่องจากว่าพวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าชะตากรรมเคยพาทั้งสองให้พบกันมาก่อนด้วยอุบัติเหตุสุดเหี้ยมโหดอำมหิตรวมทั้งโชคชะตาก็กำลังจะทำให้ทั้งสองต้องสูญเสียอีกที
The King’s Avatar For the Glory
เรื่องราวของกลุ่มนักเล่นเกม ที่หันเข้าสู่แวดวง E-Sport สองคู่คิด เยี่ยซิว รวมทั้ง ซูมู่ชิว ได้ทำงานในร้านเกมและในช่วงนั้นเกม Glory กำลังเป็นที่โด่งดัง ทั้งคู่เลยประสานมือกันเพื่อเข้าร่วมการประลอง พร้อมเรื่องราวที่แสนชอบใจ The King’s Avatar For the Glory ดังมาจากนิยายของจีนที่ได้รับความนิยมมากมาย จ
นกลายมาเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นประเด็นนี้ (นิยายในไทยใข้ชื่อว่า เทพประยุทธ์เซียนมายากลอปรี่ ลิขสิทธิ์โดย Siam inter comic)จะกล่าวว่าสนุกใช้ได้เลยขอรับ หากแม้ระยะแรกของตัวหนังจะดำเนินเรื่องช้ามาก แม้กระนั้นเพียงพอเข้ากลางเรื่องถึงท้ายเรื่อง ก็ต้องบอกว่าบันเทิงใจ ฉากต่อสู้ ฉากการวางแผน เป็นดีมาก
แม้กระนั้นเอาจริงเอาจังๆก็เสียดายที่ฉากในเกมมาเด่นเอาสำหรับเพื่อการต่อสู้คราวสุดท้าย โดยที่ช่วงแรกแทบไม่ปูฉากในเกมเลยการบิ้วของตัวเกม Glory มีเรื่องมีราวราวน้อยมาก มารู้เรื่องจริงๆก็การต่อสู้ครั้งสุดท้าย แล้วก็การเดินเรื่องราวในทีแรกๆก็ทำได้ไม่ลงตัวสักมากแค่ไหน แถมหน้าผู้แสดงก็คล้ายกันหมด
กว่าเราจะเริ่มเข้าใจเนื้อเรื่อง สามารถแยกตัวละครออก ก็ปาไปเกือบครึ่งชม. แล้ว แต่ว่าต่อไปหนังใส่ดราม่า ป้ายความผิดบันเทิงใจเข้ามาแน่นมากมาย จนกระปรี้กระเปร่าขึ้นและก็บันเทิงใจขึ้นเรื่อยจนถึงฉากจบด้านภาพสวยมาก หน้าผู้แสดงก็เท่มากด้วยเหมือนกัน (สาวๆจำต้องชอบแน่นอนครับผม)
ยิ่งฉากต่อสู้ในเกมจำต้องกล่าวว่าทำได้เท่มาก บทสู้กันดีแล้วมาก จนกระทั่งอยากให้หนังอนิเมชั่นหลายๆเรื่องทำฉากสู้ให้ได้อย่างนี้ จะติก็ตรงหน้าตัวละครหลายๆคัวคล้ายคลึงกันมาก ไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสักเท่าไร สำหรับพากย์ไทยมันไม่ค่อยดีเลย เสียงบรรยายบางตัวละครเหมือนเสียงนั่งอ่านหนังสือ ทำให้พวกเราคนดูแทบหมดอารมณ์ร่วมกับตัวละครบางตัวเลยละครับ สำหรับผมที่ไม่เคยอ่านนิยาย ก็ถือว่าใช้ได้นะ ฉากในที่สุดคืออลังมากมาย ภาพสวย คนไหนกันแน่ที่เป็นแฟนนิยาย หรือสาย E-sport ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะครับ
รีวิวหนังจ รายากับมังกรตัวสุดท้าย – แอนนิเมชั่ท้องฟ้าพสวย มองเพลิน เนื่อเรื่องดี
รายากับมังกรตัวในที่สุด หนังการ์ตูนแอนนิเมชั่นเรื่องใหม่ปัจจุบันของทางดีสนีย์ ที่มีเจ้าหญิงคนใหม่ ที่ดินดีสนีย์มีแรงดลใจมาจากวัฒนธรรมของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับบ้านเราอย่างมากกับหนังประเด็นนี้ โดยแอนนิเมชั่นหัวข้อนี้เป็นของผู้กำกับ
ดอน ฮอลล์ จาก Big Hero 6 (2014) และ Moana (2016) ร่วมมือกับ การ์โลส โลเปซ เอาตราดา ในการเนรมิตแอนนิเมชั่นเรื่องนี้กับรายากับมังกรตัวในที่สุดส่วนผู้แสดงที่มาให้เสียงบรรยายนั้นได้แก เคลลี่ มารี ทราน มาให้เสียงเป็น รายา , อควาฟิท้องนา มาให้ให้เสียงเป็น สิซู ส่วนของบ้านพวกเรารายากับมังกรตัวสุดท้าย ได้ดาราอย่าง ญาญ่ามาให้เสียงพากย์เป็น รายา นะครับ
รายากับมังกรตัวท้ายที่สุด รีวิว ปีเตอร์ แรบบิท 2 เดอะ รันอะเวย์ โดยหนังจะเล่าเรื่องรางของชนเผ่า 5 ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่มังกร แต่ว่าแล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุที่ต้องทำให้ รายา
จำเป็นต้องเริ่มเดินทางตามหามังกรตัวท้ายที่สุดที่คงเหลือ เพื่อมาปราบภูติผีที่ชื่อ”ดรูน”ให้ต้องได้ รายากับมังกรตัวท้ายที่สุด บอกเลยเรื่องราวโคตรต้องใจระหว่างมิตรภาพที่ต้องร่วมมือกันสู้กับดรูน ชอบที่หนังถือใช้พื้นหลังของเรื่องเป็นทวีปเอเชียที่มันเป็นเมืองไทยมากๆเลยล่ะ
ยืนยันดูเพลินสุดๆไปเลยกับหนังหัวข้อนี้ หนังทำออกมาราวกับเกมที่พวกเราจำเป็นจะต้องทำภารกิจไปทีละด่านละก็ไปจบที่ด่านบอส แล้วก็เพียงพอไปแต่ละที่ก็จะมีผู้ติดตามมากขึ้นนั้นเอง จนกระทั่งช่วงท้ายของเรื่องก็สามารถร่วมกันเป็นเลิศเอาชนะอสุรกายดรูนได้ แล้วก็สิ่งที่ถูกใจมากมายในหนังหัวข้อนี้คงเป็นตัวละครอย่าง
สิซู ที่เป็นมังกรน้ำตัวสุดท้าย ที่มีทั้งยังความฮาและความน่ารักน่าเอ็นดูเสมือนเด็กที่มีความต้องการอยากจะรู้ทั้งหมดทุกอย่างภายหลังการหลับไปนานนับเป็นเวลาหลายปีด้าน Effect CG ของหนัง ก็คงคุณภาพดีสนีย์เหมือนเดิมที่เก็บเนื้อหาทุกสิ่งครบแน่นอนส่วนเสียงบรรยายภาษาไทยนั้น ญาญ่า ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างยิ่งจริงๆถือว่าเป็นการบรรยายไทยที่น่าดูไม่แพ้อ่านดูดซึมเลยนะครับ
จุดเด่นของหนังเรื่อง รายากับมังกรตัวในที่สุด เป็นเป็นการ์ตูนแอนนิเมชั่นมองเพลิดเพลิน แถมมีพื้นหลังเป็นแถบบ้านพวกเราที่เขาทำออกมาได้อย่างสมจริง สวยกระทั่งต้องใจ โครงเรื่องของหนังดีแล้ว สามารถพาคนดูอินไปกับหนังได้อย่างสบายๆ รายากับมังกรตัวสุดท้าย แอนนิเมชั่นมองบันเทิงใจ ดูเพลิดเพลิน ตลอดเรื่อง พล็อตเรื่องดี ภาพงาม เป็นแอนนิเมชั่นที่ไม่สมควรพลาดเลยในปีนี้
รีวิว The Room – ห้องขอหลอน
The Room หรือชื่อไทยว่า ห้องขอหลอน เกิดเรื่องราวของคู่สมรส ที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ไกลห่างผู้คน แม้กระนั้นบ้านข้างหลังนั้นกลับมีประวัติถูกฆ่าตายชูห้องครัว และก็ทั้งสองกลับได้บังเอิญเจอห้องลึกลับ ซึ่งสามารถบันดลได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามใจประสงค์ แต่มีเงื่อนไขเดียว ทั้งหมดจะสลายกลายเป็นเถ้าผงถ้าเกิดนำของที่ขอออกมาจากตัวบ้าน
รวมทั้งเพราะว่าทั้งสองเคยพากเพียรมีลูกกันแต่ก็ล้มเหลวรวมทั้งเด็กตายในท้องทั้งสองรอบ ก็เลยทำให้ผู้เป็นแม่ขอเด็กมาจากห้องนั้น จึงนำไปสู่ความไม่ถูกกันและเกิดเป็นฝันร้ายของทั้งสองจำเป็นต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังผี เป็นหนังแนวตื่นเต้น มีความเป็นหนังเด็กเปรตอยู่เปลี่ยนๆเช่นกัน จริงๆพล็อตของประเด็นนี้ก็มีอีกทั้งความแปลกใหม่
รวมทั้งซ้ำจากจำเจอยู่รวมๆกัน แม้กระนั้นภาพรวมมันก็ไม่จัดว่าแย่นะ น่าติดตามในระดับนึง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ หนังดำเนินเรื่องกล้วยๆเข้าใจง่ายๆไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดศีรษะ จาก A-B แล้วค่อยๆเปิดเผยความลับออกมา (เอาจริงๆดูจากแบบอย่างก็เกือบจะรู้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังแล้ว)
ในตอนต้นหนังเสียบอกเล่าว่าทั้งคู่สามีภรรยาได้ย้ายมาบ้านหลังนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกกล่าวว่าเพราะอะไรจะต้องย้าย หรือมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆกันแน่ แม้กระนั้นหนังกลับไปเล่าความข้องเกี่ยวของคู่สมรสกับห้องนั้นจำนวนมาก มากมายเกิน เยอะแยะแบบ รู้และเข้าใจดีแล้วโว้ยว่ามันขออะไรก็ได้ ขยี้จัง
เลยทำให้รู้สึกว่านานไป พอเพียงถึงพาร์ทที่ขอลูกก็แบบ เอ๊า ง่ายๆเงี้ยเลยอะนะ การตัดสินใจแต่ละอย่างของผู้แสดงมันไม่มีน้ำหนักสักเท่าไหร่ หลังจากนั้นพอเด็กเกิดขึ้นมา หนังก็เลือกที่จะปล่อยทิ้งความสัมพันธ์ของแม่ลูกอีก พวกเรายังมองไม่เห็น หรือยังไม่เชื่อมากพอเลยว่าผู้เป็นแม่รักเด็กคนนี้จริงๆหรือตัวเด็กรักแม่จริงๆหรือมีเหตุมีผลแฝงอะไรกันแน่
ซึ่งมันสำคัญมากๆเพราะส่วนนี้จะเป็นตัวที่ชี้ไปถึงจุดพีคในช่วงท้ายเรื่อง มันเลยทำให้อารมณ์ การตัดสินใจ พฤติกรรมของผู้แสดงเด็กในช่วงท้ายเรื่องค่อนข้างไม่มีน้ำหนักด้วยเหมือนกัน มันก็พอเข้าใจล่ะ แม้กระนั้นมันคงจะมีน้ำหนักมากกว่านั้นสิ นอกจากนั้นแล้ว หนังเสียเวล่ำเวลาไปเล่าส่วนที่ไม่จำเป็น
จนกระทั่งหนังจบยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีเพราะเหตุไร กับฝ่ายบิดาที่บากบั่นหาที่มาที่ไปของห้อง หาจุดเชื่อมโยง แต่หนังก็ปล่อยลอยเคว้งไว้อย่างนั้นล่ะ ไม่ให้คำตอบด้วยว่าเป็นยังไงมาไง ที่สำคัญเป็นหนังมิได้บอกเลยว่าห้องนี้มันปฏิบัติงานยังไง มันเป็นอย่างงั้นได้อย่างไร ที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไร
รู้แม้กระนั้นมันใช้งานอย่างไรเท่านั้น แต่ว่าแม้กระนั้น อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าหนังมันก็น่าติดตามนะ แม้เรื่องราวและระหว่างทางมันจะไม่ถ้วนถี่รวมทั้งกำเนิดปริศนามากมายก่ายกองก็ตาม ส่วนทางด้านนักแสดง พวกเราเห็นว่าทุกคนรับบทและก็ปฏิบัติภารกิจของตัวเองได้ดีเลยจ้ะ หนังมาเครื่องติดในช่วงท้ายแบบท้ายจริงๆ(ถึงจะไม่ว้าวขนาดนั้น แม้กระนั้นก็มิได้ห่วย)
ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออก็โอเคนะ หากตลอดทั้งเรื่องใส่อะไรมามากยิ่งกว่านี้ หนังประเด็นนี้จะดียิ่งขึ้นมาอีกเยอะเลย แล้วก็ตอนจบหัวข้อนี้พวกเราค่อนข้างจะโอเคนะ ถือว่าจบแล้วก็หาทางลงก้าวหน้าเลยแหละสรุปแล้ว The Room ห้องขอหลอน แม้จะมีช่องโหว่ของเรื่องสะเปะสะปะรายทางและก็เกิดคำถามอะไรเยอะมากก็ตาม แต่ว่ามันก็ไม่ได้ห่วยแล้วก็จัดว่าอยู่ในระดับที่โอเค หากให้เทียบกับหนังผีอย่าง The Grudge – บ้านผีดุ ที่เข้าฉายชนกัน ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้น่าเสียเงินเข้าไปดูมากกว่านะ
The Grudge
ตำนานบทใหม่ของผีจูออนอาจไม่มีใครไม่รู้หนังผีญี่ปุ่น ที่สร้างมาหลายภาคมากอย่าง Ju-On ซึ่งเนื่องจากว่าได้รับความนิยมขนาดนี้ทำให้ฮอลีวูดซื้อไปรีเมคมาแล้ว 2 ภาค ในช่วงต้นสมัย 2000 ซึ่งเวอร์ชั่นนั้นค่อนข้างจะไม่ค่อยติดตาผู้ชมซักเท่าไหร่ แม้ว่าจะดันทุกรังทำภาค 3 เป็นหนังแผ่นก็ตาม (ซึ่งภาค 3 นี้บางคนไม่เคยทราบด้วยซ้ำว่าเคยมีการสร้างอยู่)
จนปี 2020 ฮอลลีวูด ถึงเวลาเอามารีเมคอีกรอบ ซึ่งมันจะแปลงเป็นหนังรีเมคที่สร้างขึ้นจากหนังที่รีเมคมาจากเวอร์ในขั้นแรกฉบับอีกครั้งนึง เรียกกล้วยๆเลยเป็นรีเมคแบบอินเซปชั่นนั่นเอง 555เรื่องราวในภาคนี้ว่าด้วยเมื่อปี 2004 ฟีโอน่า พยาบาลสาวลูกหนึ่งที่พึ่งพิงจะเสร็จธุระจากการจำต้องไปดูแลคนไขที่บ้างหลังหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เธอได้เดินทางกลับไปอยู่บ้านในอเมริกา
แต่ว่าแล้วอีกทั้งครอบครัวนี้ก็ได้เสียชีวิตอย่างลึกลับ หลังจากนั้นไม่นานมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ก็เกิดคดีฆ่าตกรรมอีกเหมือนกัน จนเวลาล่วงไปกว่า 2 ปี นักสืบมอลดูน ที่พึ่งพิงย้ายมาใหม่พร้อมทั้งลูกชายของคุณ ต้องมาทำคดีที่ยิ่งสืบสาวเรื่องราวลึกลงไปเรื่อยๆต่างเชื่อมโยงกับคดีของครอบครัว ฟีโอน่าเมื่อ 2 ปีกลาย ณ
บ้านเลขที่ 44 และหลังจากที่มอลดูนได้เข้าไปสืบเรื่องราวในบ้านข้างหลังนั้น ดูเหมือนเธอจะถูกบางอย่างติดตามออกมาด้วยจะว่าไปแล้วส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะชอบเรื่องราวใน Ju-On เวอร์ชั่นนี้นะที่มีความพยายามจะเชื่อมโยงอาถรรพ์ของบ้านเจ้าปัญหาในญี่ปุ่น ที่กระจายเชื้อร้ายมาสู่บ้านเลขที่ 44 ในอเมริกา
รวมไปถึงการตัดต่อที่เล่าเรื่อง 3 ไทมไลน์สลับไปๆมาๆพร้อมๆกัน (ซึ่งบางทีอาจจะมองงวยงงๆในทีแรกๆ แต่พอสมควรๆไปแล้วก็จะค่อยๆรู้เรื่องเยอะขึ้นเรื่อยๆ) ส่วนตัวผมเองนั้นคิดว่าเวอร์ชั่นนี้มันก็ไมได้ไม่ดีอะไรนะ ฉากตุ้งแช่ก็ปฏิบัติงานกับคนดูดีทีเดียว ก็แค่หนังมันยังกล่าวโทษกลมกล่อมละมุนละไม รวมทั้งข้อสรุปที่น่าพึงจะพอใช้ได้ให้กับคนดูยังไม่ได้เพียงเท่านั้น 6.5/10
กลับสู่หน้าหลัก https://im-imcgrupo.com/