ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์

ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์

ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์ ที่จะพาคุณไปเยี่ยมอะเมซอน นำกลุ่มโดยกัปตันแฟรงค์ วูฟ ผู้ฉลาดหลักแหลม และก็ ดร. ลิลี่ ฮัฟตัน นักตรวจผู้กล้าหาญ ลิลี่เดินทางจากลอนดอนสู่ป่าอะเมซอน และว่าจ้างแฟรงค์ให้เป็นคนนำทางสำหรับในการล่องแม่น้ำ โดยเรือคู่ใจของเขา La Quila ที่ถึงแม้สภาพจะโยกแต่ว่าก็ยังดูดี ลิลี่มีความจริงจังที่จะตามหาต้นไม้ในตำนานที่มีความรู้ความเข้าใจในการรักษา เพื่อนำพลังนี้มาใช้พัฒนาการแพทย์ สำหรับเพื่อการผจญภัยคราวนี้ทั้งสองควรต้องพบเจอกับอันตรายที่ไม่คิดจากสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ แล้วก็ส่ิงลวงล่ออันสวยสดงดงามในป่านี้ แม้กระนั้นยิ่งเข้าใกล้ความลับของต้นไม้ในตำนานเยอะแค่ไหน ทั้งยังลิลี่และแฟรงค์ต่างชำระเงินเดิมพันสูงขึ้นเรื่อยๆพร้อมด้วยชะตาของผู้คนที่บางทีก็อาจจะคลอนแคลนล่าสุด เอ็ดการ์ รามิเรซ ผู้แสดงผู้รับบท อกุยร์เร่ ตัวร้ายของภาพยนตร์เรื่อง Jungle Cruise เปิดเผยว่า ผจญภัย ล่องป่ามหัศจรรย์ ผู้แสดงนี้จะมีอีกทั้งด้านมืดแล้วก็ด้านสว่างและมีความซับซ้อนกว่าตัวร้ายทั่วไปในอีกมุมมองบางครั้งก็อาจจะคิดว่าเขาอาจมิได้เป็นคนทรามตามที่เป็นจริงก็ได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังเป็นตัวละครที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและมีเหตุมีผลสำหรับการเข้ามาในป่าสุดลึกลับแห่งนี้ เพราะว่า เขาอยากช่วยคนที่รักเขามากมาย แต่ว่าทั้งหมดทุกอย่างก็ไม่เป็นผล จนถึงสุดท้ายเขาข้ามไปสู่ด้านมืด ซึ่งเอ็ดการ์สนุกสนานได้รู้เรื่องในเหตุผลในการทำนั้นทำให้ตัวเขาเองมีความเพลิดเพลินไปกับการสำรวจรวมทั้งถ่ายทอดหน้าที่ของตัวร้ายตัวนี้ทั้งนี้จากที่ เอ็ดการ์ ราไม่เรซ บอกมาทำให้พวกเรารู้สึกถึงอีกหนึ่งคนร้ายที่คนดูรักคือคิลมองเกอร์ ซึ่งแม้จะร้ายแต่คนดูก็พอใจแล้วก็ยกโทษในความโหดร้ายทารุณของพวกเรา จัดเตรียมพบกับวายร้ายคนใหม่ของโลกดิสนีย์ใน Disney’s Jungle Cruise

รีวิว The White Tiger

เพราะเหตุว่าตลอดชาตินี้ไม่มีที่ยืนให้ “คนจน”สำหรับ The White Tiger เล่าเรื่องราวของพลราม ฮาลวัย (อาดาร์ช กอราฟ) ที่กำลังเขียนอีเมลถึงรัฐมนตรีจีนซึ่งกำลังเดินทางมาเยือนประเทศอินเดีย ระหว่างที่เขาพร่ำสาธยายเนื้อความก็ทำให้เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่วัยเด็กที่เขาเติบโตมาจากหมู่บ้านเล็กๆซึ่งยากแค้นสุดขีด แต่ด้วยวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจทำให้เขาเพียรพยายามถีบตัวเองขึ้นมาจากความยากลำบาก แต่ว่าสิ่งที่เขายังไม่อาจจะก้าวพ้นได้เลยคือเรื่องของวรรณะที่เป็นดุจกำแพงชีวิตทำให้พลรามยังต้องอาจสถานะเป็นคนต้อยต่ำอยู่ร่ำไปความจนของพลรามอาจจะเป็นอุปสรรคก็จริง

แต่ว่าความฉลาด (ปนคดโกง) ของพลรามก็ช่วยทำให้ปรับเขาเริ่มไต่เต้าแล้วก็ขยับชีวิตให้ดียิ่งขึ้นได้บ้าง จากคนใช้ร้านขายของหวานที่ดูไร้อนาคตในถิ่นธุระกันดาร สู่การไปทำงานขับรถให้กับลูกชายมหาเศรษฐีในเมืองใหญ่ พลรามก็เริ่มได้ทำความเข้าใจว่าอันที่จริงแล้วนอกเหนือจากวรรณะ แล้วโดยความเป็นจริงอินเดียมีเพียงแค่คนมั่งคั่งแล้วก็คนจน แล้วก็คนจนในประเทศประเทศอินเดียก็ไม่ได้ต่างอะไรอะไรจากไก่ในกรง ที่คอยวันถูกเอาไปปาดคอให้แปลงเป็นอาหาร เช่นเดียวกันกับข้าทาสที่พร้อมก้มตัวยอมรับชะตาชีวิตนายจ้างนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้พวกเขาก็เลยต้องปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งปวงผ่านข้าวของที่เหลือเอาไว้เพื่อตามหาว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่คนเสียชีวิตให้ความใส่ใจ แม้กระนั้นจากนั้นไม่นานผู้เป็นบิดาก็จากไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลวทันควัน ก่อนตายเขาได้เขียนพินัยกรรมให้ทนายความเดินทางไปเจอกับน้องชายต่างพ่อของเขาซึ่งเป็นนักโทษคดีก่อเหตุการฆาตกรรมที่พึ่งจะพ้นโทษออกมาฝากให้เขาช่วยดูแลลูกชายในฐานะของผู้ดูแล น้องชายผู้นี้รังเกียจพี่มากมายก่ายกองแม้กระนั้นด้วยความที่อยากได้เงินในพินัยกรรมเขาจึงจึงควรยอมรับข้อแม้ทดสอบตรงเวลา 3 เดือน แม้กระนั้นการได้กลับมาดำเนินการกับหลานนั้นทำให้เขาได้พบเห็นกับข้อเท็จจริงต่างๆเยอะแยะ

Intruder หรือชื่อไทยว่า อย่าให้ยูจินเข้าบ้าน

เป็นเรื่องราวของครอบครัวนึงที่น้องสาวหายไปตั้งแต่ยังเล็ก ผ่านไป 25 ปี คุณกลับปรากฏตัวขึ้นมาอย่างลึกลับ รวมทั้งกลับเข้ามาอยู่ในครอบครัวอีกที แม้กระนั้นตอนที่ทุกคนแฮปปี้ ผู้เป็นพี่ชายกลับมีความคิดว่านี่ไม่ใช่น้องของเขามีเพื่อนพ้องบอกว่าเนื้อเรื่องเชื้อเชิญให้นึกถึงหนังเรื่อง Forgotten ใน Netflix แต่ว่านี่ก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันว่าราวกับมั้ยเนื่องจากไม่เคยมอง ไว้ได้โอกาสจะมาบอกเน้อ ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เล่าได้สนุก น่าสนใจ

ชักชวนติดตาม แล้วก็ชวนสงสัยสุดๆมีทั้งความระทึกใจ สถานการณ์ตึงเครียด ความไม่น่าไว้วางใจกับการกลับมาของยูจินผู้เป็นน้อง ไม่ใช่ก็แค่ทำให้พระเอกสงสัยแค่นั้น ผู้ชมก็ยังคงสงสัยว่าเอ๊ะ ตกลงใช่ตัวจริงหรือเปล่าวะ มันจึงเกิดเป็นความบันเทิงใจและก็ไต่ระดับมาเรื่อยจนตราบเท่า….ตอนเฉลยนี่แหละหนังประพฤติดีตลอดมา จนตราบเท่าจุดเฉลย จริงๆมันคิดไม่ถึง อยู่เหนือความมุ่งหวังล่ะ แม้กระนั้นมันเปลี่ยนเป็นอะไรที่เกินความสามารถไปสักนิด

แล้วก็ขาดเหตุผลมารองรับดีสักเท่าไหร่ มันกลายเป็นเหมือนทิ้งเรื่องราวขั้นแรกที่ทำมาทั้งผอง ความน่าดึงดูดใจทั้งผอง แล้วโยนไปสู่สิ่งนั้นแบบง่ายๆแบบโนไอเดียแล้วอะว่าจะทำเช่นไรต่อ ดูฝ่าฝืนๆรีบๆหาทางลงอยากให้หนังจบให้ได้ ยิ่งฉากด้านหลังเรื่องนี่เช๊ยเชยชะมัด ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์ ฉากไคลแม็กของเรื่องไม่มีการน่าจดจำอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่โชคร้ายเป็นส่วนประกอบต่างๆที่หนังนำมาใช้กลับไม่ได้การนำเอามาใช้อย่างคุ้ม ดังเช่นว่าการให้พระเอกเป็นสถาปนิก

แต่กลับมิได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นคนเขียนแบบในจุดนี้สักเท่าไหร่เลย หรือการใช้ผลดีจากการสะกดจิตบรรเทา ก็มิได้ถูกดึงนำมาประกอบกับเรื่องราวมากอย่างที่ควรแต่ว่าสิ่งที่น่ายกย่องสุดๆเป็น 2 ดารานำ ที่ต้องกล่าวว่าเอาอยู่จริงๆเริ่มตั้งแต่ผู้รับบทพระเอกอย่าง คิมมูยอล มีซีนอารมณ์ส่งมากให้ได้โชว์ความสามารถ สะท้อนสถานการณ์จิตใจของตัวละครออกมาได้อย่างน่ายกยอ ตามมาด้วยการแสดงของ ซง จี-ฮโย ที่ถ่ายทอดตัวละครยูจินออกมาได้น่าชังน้ำหน้าไม่ใช่เล่น ถึงบางครั้งอาจจะไม่ได้มีฉากดึงอารมณ์เหมือนคิมมูยอล แต่การแสดงของเธอก็เหมาะสมกับบทบาทแล้ว สรุปแล้ว Intruder – อย่าให้ยูจินเข้าบ้าน เป็นหนังระทึกขวัญจิตวิทยาที่น่าดึงดูดมากมายๆในช่วงครึ่งแรกของหนังเพียงแค่นั้น พอถึงจุดเฉลยความน่าสนใจมันกลับลดฮวบไปเลย กลายเป็นน่าเสียดายที่ทำมาดีตลอดทั้งเรื่อง

ตลอดเส้นทางการบอกกล่าวเรื่องราวของพลรามที่ดูอย่างกับว่าสถานการณ์ชีวิตจะพลิกไปกลับมายิ่ขี้ตระหนี่ว่ารถไฟบินตีลังกา

ความวุ่นวายในชีวิตของนี่เองคือความสนุกสนานร่าเริงที่เล่นเอาคนดูทายใจไม่ถูกแบบเดียวกันว่าชีวิตของเขาจะบัดซบได้อีกแค่ไหน แล้วเขาจะหลุดออกมาจากวังวนรวมทั้งขยับฐานะตัวเองให้เปลี่ยนเป็นไปเป็นเจ้าของธุรกิจแบบช่วงต้นเรื่องได้ยังไงกัน เมื่อมองในทุกช่องทางแล้ว เกือบจะไม่มีสาเหตุใดเลยที่จะผลักเขาให้เดินไปสู่จุดนั้นหากแม้หนังจะเดินเรื่องแบบทีเล่นทีจริง แต่ข้อความสำคัญในหนังก็กล่าวได้ว่าคนดูประเทศโลกที่ 3 อย่างไทยแลนด์ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับผู้แสดงอย่างพลรามที่ดิ้นรนแล้วก็ต้องประจันหน้ากับความฟอนเฟะในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิพิเศษชนคนมั่งคั่งที่ใช้เงินทอง เส้นสำหรับเพื่อการเอาตัวรอดจากความเหลวแหลกร้ายที่ตัวเองก่อขึ้น ทั้งยังหน้าชื่นตาบานอยู่ในสังคมแบบไม่รู้เรื่องหนาวรู้ร้อนหลังจากที่พลรามได้มีโอกาสทำความเข้าใจจาก “คนรวย” เขาก็เลยดูดซับสิ่งพวกนั้นมาและก็ผงาดตัวเองขึ้นเป็น “พยัคฆินขาว” ท้ายที่สุดคนไหนต้องการดูหนังเสียดสีสังคม แถมย้อนกลับมาดูสังคมบ้านเราได้อย่างมีอารมณ์ร่วม The White Tiger เป็นหนังบันเทิงใจที่คุณต้องไม่พลาด

รีวิว Awaken

ความเห็นแก่ตัวของคนเราเป็นสิ่งที่ไม่มีวันจบ เมื่อใครซักคนที่มีจุดแข็งเหนือมนุษย์ทั่วไปจะมีผลให้คนไหนกันอีกผู้คนจำนวนมากอยากได้มาได้ผลสำเร็จผลดีเพื่อตอบสนองความจำเป็นของตัวเองรวมทั้งผู้ที่มีความคิดเดียวกัน ซึ่ง “โดจองอู” หัวหน้าทีมพิเศษของสำนักงานตำรวจ ผู้มีปัญญาฉลาดมากที่ประพฤติเงอะงะแต่กับเรื่องคดีเขาจะมีความเอาจริงเอาจังรวมทั้งมองลึกลับโดยทันที ร่วมกับ “กงฮเยวอน” ผู้ช่วยในกลุ่มพิเศษ ที่มีความมั่นคงต่ออาชีพของตนเอง กลุ่มของเขาได้รับภารกิจคดีการสังหารสม่ำเสมอที่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและก็นำมาซึ่งความระส่ำระสายประมือมตำรวจอย่างยิ่ง

Awakenเนื่องจากไม่สามารถหาตัวฆาตกรแล้วก็คลี่คลายสถานการณ์ได้ ก็เลยทำให้จะต้องว่าจ้าง “เจมี่” อดีตข้าราชการ FBI ที่ถูกรับเลี้ยงรวมทั้งเติบโตที่สหรัฐอเมริกาที่กลับมาประเทศเกาหลีเพื่อตามหาความทรงจำวัยเด็กที่หายไปเข้ามาช่วยสืบสวนคดี และเรื่องราวลึกลับในคดีเมื่อ 28 ปีกลาย กำลังจะถูกรื้อฟื้นขึ้นกับคดีการฆ่าตลอดที่โยงไปถึงคนใหญ่คนโตในประเทศเกาหลี และก็มวลมนุษยชาติสิ่งที่โดจองอูสังเกตเห็นในเหยื่อคดีการฆ่าสม่ำเสมอนี้คือการถึงแก่กรรมโดยที่บนใบหน้ากำลังยิ้มเสมือนว่ากำลังฝันอยู่ ทำให้เขารำลึกถึงคดีเมื่อ 28 ปีก่อนที่หมู่บ้านกลางคืนสีขาว การนำเด็กไปทดลองบางสิ่งบางอย่างโดยเด็กตรงนี้จะมีลักษณะพิเศษคืออยู่เหนือกฎฟิสิกส์รวมทั้งเชาวน์สูงขึ้นมากยิ่งกว่าเด็กทั่วไป

The Lingering – อพาร์เม้นท์ผีจอง(เวร)

เป็นเรื่องราวของ ยูมี สตรีคนนึงที่บังเอิญจะต้องเลี้ยงน้องสาว เพราะเหตุว่าผู้เป็นแม่ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน แม้กระนั้นยูมีไม่สามารถเลี้ยงได้ ก็เลยจะฝากน้าให้อุปการะแทนคุณให้หน่อย ยูมีก็เลยเดินทางไปหาน้าที่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งที่น้าเป็นเจ้าของเป็นสถานที่ที่คุ้นเคยของยูมีเพราะว่าคุณเคยมาตั้งแต่เด็กๆแม้กระนั้นการกลับไปของคุณในคราวนี้ทำให้คุณจำต้องพบเห็นกับเรื่องสุดแปลกและก็น่าขนลุกถ้าหากดูแต่ตัวอย่างแล้วก็อ่านเพียงเรื่องย่อ

คุณอาจจะเข้าหัวใจว่ามันคือหนังผีที่สิงในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์  นางเอกจำต้องไปพบผีหลอกหลอนที่โฮเต็ลที่นี้แน่ๆ มันก็ใช่…แหละ เพียงแต่ว่ามันใช้วัตถุดิบความเป็นบังกะโลได้ไม่ดี ไม่คุ้มเอาซะเลย เนื่องจากว่าแบบอย่างขายแบบนั้นด้วยแล้ว พอได้ดูจริงมันกลับน่าผิดหวังจริงๆแนวคิดของหนังดีแล้ว กล่าวได้ว่าน่าสนใจเลยล่ะ แม้กระนั้นมันเล่าได้ไม่สนุกเลย เล่าได้น่ารำคาญสูงถึงมากที่สุด ทำให้ความน่าดึงดูดใจทั้งหมดหดหายไปในทันทีทันใด

ปูเรื่องก็น๊านนาน เท่านั้นยังไม่พอ หนังยังมีการพูดถึงเชื่อมโยงเหตุต่างๆไม่ใช่แค่หนังผี มีพาร์ทของการสืบสวนซักถาม ที่ไม่เวิร์ค และไม่เข้าใจถึงการมีอยู่เลยจริงๆเรื่องที่น่าอารมณ์เสียก็ยังมีมากกว่านั้น คือนักแสดงอื่นๆที่โผล่มานอกจากในแบบอย่างล้วงสุดแท้แต่ชวนให้งวยงง ว่ามาเพราะอะไร มีอะไร เกี่ยวข้องอย่างไร เล่าที่มาที่ไปน้อยมาก บางตัวนี่ไม่ได้กล่าวเลยว่าเป็นคนไหนกันแน่มาจากไหน มีความเกี่ยวพันอะไรกับนักแสดง ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านการเล่า บทยังน่าหงุดหงิดอีก ยิ่งพักหลังของหนังเต็มไปด้วยปริศนา ว่าอะไร? เพราะเหตุใด? อย่างไร? เช่นไร? ไม่ว่าจะเรื่องของเธอเอก, ตำรวจ, คนใช้, เจ้าของโฮเต็ล, ชุดแดง, เรื่องผี คือจนจบเรื่องใจความสำคัญแต่ละอย่างก็ไม่จัดการ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย งวยงงไปหมด หลายๆอย่างถูกใส่เข้ามาอย่างไม่มีเหตุเลย

Lovers Rock ความชอบพออบอวลในมวลความไม่ชอบธรรม

โดย ก้อง ฤทธิ์ดีในปีที่จอหนังจำนวนมากในโลกยังดับมืด ภาพยนตร์สตรีมมิ่งเปลี่ยนเป็นสนามของผู้กำกับมือดี พวกเราบางครั้งอาจจะมอง Netflix กันเป็นสรณะ แต่ว่าหนึ่งในหนังดีของปีที่แล้วแล้วก็ตลอดถึงเวทีออสการ์ปีนี้ เป็นหนังชุดที่เรียกรวมๆว่า Small Axe ของผู้กำกับอังกฤษ สตีฟ แมคควีน (ที่เรารู้จักกันจาก Twelve Years a Slave แล้วก็ Shame) ออกฉายเมื่อปลายปีที่แล้วทาง BBC และลงสตรีมใน Amazon[br]Small Axe

เป็นชุดภาพยนตร์ที่มี 5 เรื่อง เป็นต้นว่า Mangrove, Lovers Rock, Red White and Blue, Alex Wheatle รวมทั้ง Education แต่ละเรื่องอยู่ภายใต้ธีมเดียวกันแม้กระนั้นมิได้ต่อเนื่องกัน (ด้วยเหตุนี้จะมองแยกก็ได้ ความยาวมีตั้งแต่ชั่วโมงนิดๆถึงสองชั่วโมง) อีกทั้ง 5 เรื่องว่าด้วยความทุกข์ทรมาน ความสุข และความมุ่งมาดของคนประเทศอังกฤษผิวสีเชื้อสายจาไมก้า ที่ดำรงชีวิตอยู่ในลอนดอนในตอนทศวรรษที่ 1970-1990

นักฟังเพลงคงคุ้นชื่อซีรีส์ Small Axe ว่าเป็นเพลงดังของ บ๊อบ มาร์เลย์ ศิลปินเรกเก้ชาวจาไมก้าที่โด่งดังมากมายในอังกฤษ เนื้อเพลงกล่าวถึงการต่อสู้ของคนที่ถูกกดขี่ เปรียบเปรยว่าเจ้าอาณานิคมเป็น “ต้นไม้ใหญ่” รวมทั้งคนเรียกร้องเสรีภาพเป็น “ขวานด้ามเล็ก”หนังอย่างต่ำ 2 เรื่องจาก 5 ประเด็นนี้มีสิทธิ์ลุ้นไปถึงออสการ์ ว่ากันว่าถ้าหากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีที่ผ่านมาไม่โดนยกเลิกด้วยเหตุว่าโควิด หนังสองเรื่องจากเซ็ตนี้หมายถึงMangrove และก็ Lovers Rock

น่าจะอยู่สายประกวดและก็เป็นหนังดังแห่งปี (อันนี้เห็นด้วย) ถ้าหากจะแสวงหามาดูกัน ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์ ขอเสนอแนะสองเรื่องนี้ก่อน ส่วนอีกสามเรื่องในชุดเบาๆตามดูคราวหลังได้ถึงจะว่าด้วยเรื่องของคนประเทศอังกฤษเชื้อสายจาไมก้าทั้งคู่ แต่ว่า Mangrove กับ Lovers Rock ช่างแตกต่างในโทนรวมทั้งอารมณ์ Mangrove เป็นหนังที่ความคับแค้น กราดเกรี้ยว ถุยถ่มความไม่ชอบธรรมแล้วก็การเหยียดสีผิว หนังผลิตจากข้อเท็จจริงของห้องอาหารจาไมก้าชื่อ Mangrove

ในย่านคนอพยพของลอนดอนในตอนทศวรรษ1970 ที่กลายเป็นศูนย์รวมของนักเรียกร้องความเท่าเทียมและก็มักเป็นเป้าให้ตำรวจเรสิสท์บุกค้น ทำลายของใช้ และจับกุมตัวผู้ครอบครองและก็ลูกค้าตามอำเภอใจ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการพินิจคดีครั้งสำคัญของแอคติวิสท์ผิวสี 9 คนข้อหาก่อระส่ำระสาย เป็นหนังของความโกรธเคือง แล้วก็เป็นความโกรธที่พวกเราเคยประสบพบเห็นมาแล้วในหนังที่ว่าด้วยชนหมู่น้อยที่โดนรังควานซ้ำซากจำเจ

ไม่ใช่เพียงแค่จากตำรวจดูถูกผิวสาม-สี่คน แม้กระนั้นโดยระบบเจ้าอาณานิคมที่ยังไม่เสื่อมอำนาจแม้ว่าจะผ่านเข้าสู่ยุคหลังอาณานิคมแล้ว เด่นด้วยรายละเอียดทางวัฒนธรรมและก็การต่อสู้ทางอุดมการณ์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ระหว่างชาวผิวสีกับคนขาว แม้กระนั้นระหว่างนักเรียกร้องด้วยกันเองที่ส่วนหนึ่งส่วนใดเพียงแต่ต้องการดำเนินชีวิตธรรมดาและก็ “ยอม” เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของระบบที่รู้อีกทั้งทราบว่าไม่แฟร์ หรือจะยืนขึ้นก่อตั้งเคลื่อนขบวน

ยอมถูกจับ เดิมพันกับประวัติศาสตร์ และก็เดินแถวไปศาลเพื่อแสดงจุดยืนของตัวเองจุดแข็งอีกประการของหนังชุด Small Axe เป็นเพลงประกอบ รวมทั้งในบรรดาหนัง 5 ในเวลานี้ ในตอนที่เพลงและดนตรีเป็นเคมีหลักสำหรับการปั้นเรื่องและก็บรรยากาศคือตอน Lovers Rock สำหรับผู้เขียน นี่คือหนังที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งของปีที่ผ่านมาและมองซ้ำได้หลายรอบแน่นอนชื่อเรื่องมาจากเครือญาติเพลงเรกเก้สายอ่อนโยน (คือไม่ใช่เรกเก้โป้งชึ่ง)

เป็นเพลงสำหรับคู่ครองหนุ่มสาวไว้เต้นรำและจีบกันตามงานงานเลี้ยง หนังประเด็นนี้ยาวเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆไม่มีพล๊อท ไม่มีเนื้อเรื่องมุ่งมั่น เราแค่เพียงตามสองสาวผิวสีในเวลากลางคืนที่คุณไปร่วมงานเต้นรำที่จัดในบ้าน – งานเลี้ยงแบบงี้เป็นเรื่องปกติของคนจาไมก้าในอังกฤษในยุค 1980 ที่ถูกขัดขวางไม่ให้ไปบาร์หรืองานกินเลี้ยงของคนผิวขาว – ทั้งคู่สาวฟังเพลง เต้นรำ มีชายหนุ่มมาจีบ โกรธกัน ดีกัน อื่นๆอีกมากมาย ทั้งปวงเกิดขึ้นในบรรยากาศอบอวลด้วยแรงมุ่งมาดปรารถนา เคลียคลอด้วยเสียงดนตรีรวมทั้งนักจัดรายการวิทยุที่รอกระตุ้นเร้าความชอบพอของคู่เต้นบนฟลอร์

กลับสู่หน้าหลัก https://im-imcgrupo.com/